วันศุกร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2558

คำย่อในภาษาอังกฤษที่ใช้ในโลกออนไลน์

              อย่างที่เรารู้ๆกันนะคะ  ว่าโลกปัจจุบัน   มีการแข่งขันต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย   การสื่อสารจะต้องรวดเร็ว  กระชับ  ได้ใจความตามไปด้วย  โลกออนไลน์ก็เช่นกัน  บางคนพิมพ์เร็วก็ดีไป   แต่บางคนพิมพ์ช้า ก็อาจไม่ทันคนอื่นได้  ตัวช่วยที่สำคัญ นั่นก็คือ  ตัวย่อ นั่นเองค่ะ  แต่ละภาษาก็จะมีตัวย่อในรูปแบบต่าง ๆ เป็นของตนเอง   แต่เราจะนำเสนอตัวย่อที่เป็นภาษาอังกฤษกันนะคะ  มาดูกันว่ามีคำไหนบ้าง  เคยใช้กันบ้างหรือยังเอ่ย ?



Cr. ตามภาพเลยจ้า

วันจันทร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2558

ภาษาอังกฤษในลักษณะแปลเป็นไทยหรือสำนวนแบบไทยๆ

เราอาจจะเคยได้ยินคนไทยใช้ภาษาอังกฤษในลักษณะแปลเป็นไทยหรือสำนวนแบบไทยๆ  ลองมาดูกันนะค่ะว่าคำไหนที่มักใช้ผิด แล้วที่ถูกต้องคืออะไร


การเรียกเก็บเงินค่าอาหาร
มักจะพูดว่า check bill
ที่ถูกต้องคือ check please หรือ bill please

การกล่าวคำทักทาย
เรามักเคยได้ยินคำว่า How are you going? ซึ่งคนส่วนใหญ่มักเข้าใจว่า ฝรั่งถามว่าไปอย่างไร แต่ความหมายที่ถูกต้องคือ คุณสบายดีไหม ซึ่งมีความหมายเดียวกับคำว่า How are you? หรือคำว่า How are you doing?  ซึ่งคำว่า How are you going? เป็นสำนวนบริติชแต่คำว่า
How are you doing? เป็นสำนวนแบบอเมริกัน

 ถ้าต้องการพูดว่า "คุณจะไปไหน"
มักจะพูดว่า  Where you go?
ที่ถูกต้องคือ Where are you going? หรือ Where're you going?

ถ้าต้องการพูดว่า "เดี๋ยวโทรกลับนะ"
มักจะพูดว่า I will telephone you.
ที่ถูกต้องคือ I will call you later. หรือ I will phone you later.

การกล่าวคำขอโทษ
มักจะพูดว่า I sorry.
ที่ถูกต้องคือ I am sorry.

ถ้าต้องการพูดว่า "อย่าเครียด"
มักจะพูดว่า Don't serious.
ที่ถูกต้องคือ Don't be serious.

ถ้าต้องการพูดว่า "อย่ากังวลไปเลย"
มักจะพูดว่า Don't be worry.
ที่ถูกต้องคือ Don't worry.

ถ้าต้องการพูดว่า "ไม่มี"
มักจะพูดว่า No have.
ที่ถูกต้องคือ I don't have.

ถ้าต้องการพูดว่า "ฉันไม่ชอบ"
มักจะพูดว่า I no like.
ที่ถูกต้องคือ I don't like.

ถ้าต้องการให้บางคนฟังเราพูด
มักจะพูดว่า Please listen me.
ที่ถูกต้องคือ Please listen to me.

ถ้าต้องการพูดว่า "ฉันจะกลับบ้านแล้วนะ"
มักจะพูดว่า I want go home.
ที่ถูกต้องคือ I want to go home.


 ถ้าต้องการพูดว่า "เราสามารถพูดภาษาอังกฤษได้นะ"
มักจะพูดว่า I can to speak English.
ที่ถูกต้องคือ I can speak English.

ถ้าต้องการพูดว่า "ถ้าฉันเป็นคุณ ฉันจะ....."
มักจะพูดว่า If I am you, I will....
ที่ถูกต้องคือ If I were you, I would ......

ถ้าต้องการพูดว่า "เขาหรือเธอมี....."
มักจะพูดว่า She have / He have
ที่ถูกต้องคือ She has / He has
เพราะว่าเขาหรือเธอเป็นบุรุษที่สาม กริยาต้องเป็น has

การกล่าวคำอวยพร
มักจะพูดว่า Good luck for you.
ที่ถูกต้องคือ Good luck to you.


ถ้าต้องการพูดว่า "เธอเป็นคนง่าย ๆ"
มักจะพูดว่า She is an easy woman.
ที่ถูกต้องคือ She is easy-going.

ถ้าต้องการพูดว่า "ฉันชงกาแฟ"
มักจะพูดว่า I mix coffee. หรือ I do coffee.
ที่ถูกต้องคือ I make coffee.

ถ้าต้องการพูดว่า "ฉันนอนอยู่บนเตียง"
มักจะพูดว่า I sleep on the bed.

ที่ถูกต้องคือ I sleep in the bed. เหตุผลที่ฝรั่งใช้คำนี้เพราะการจัดเตียงของฝรั่งนั้น เขาจะเอาผ้าห่มสอดไว้ในเตียง เวลานอนก็จะเอาตัวซุกเข้าไปในผ้าห่มค่ะ



วันเสาร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2558

โปรโมชั่นต้อนรับเทศกาลวาเลนไทน์

มาแล้วจ้าาาาา !!
โปรโมชั่นดีดี ต้อนรับวันวาเลนไทน์ แค่ Check-in หรือเข้ามาลงทะเบียนที่ศูนย์ภาษาของเรา เท่านั้น ! รีบๆกันหน่อยนะคะ  
 >> ข้อมูลเพิ่มเติม :  http://www.leadlanguagecentre.com/www/?lang=en





วันจันทร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2558

TOEIC รับรองผล อุบลราชธานี


TOEIC รับรองผล 


**** คอร์สใหม่ ****


1.เสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-12.00 น. 

2. วันธรรมดา (จันทร์-ศุกร์) เวลา 17.00-20.00 น.

จองที่นั่งด่วน !!! 
ภายใน 24 มกราคมนี้ 
อย่ารอช้า TOEIC จำเป็นมากสำหรับคุณ 
ไว้ใจเรา LEAD สอนสด รับรองผล 600+ แน่นอน


วันอาทิตย์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2558

ภาษาอังกฤษกับ 7 อาชีพเสรีในประชาคมอาเซียน

ภาษาอังกฤษกับ 7 อาชีพเสรีในประชาคมอาเซียน 
ใกล้เข้ามาทุกขณะแล้วนะคะสำหรับการเปิดประชาคมอาเซียนหรือที่เราได้ยินกันจนคุ้นหูด้วยคำว่า AEC ซึ่งหมายถึงว่าเมื่อเราเปิดประชาคมอาเซียนแล้วนั้น กลุ่มอาชีพหลาย ๆ กลุ่มอาชีพได้รับการรับรองให้สามารถไปทำงานตามประเทศในกลุ่มประชาคมอาเซียนภายใต้กฎเกณฑ์ของอาเซียนได้อย่างอิสระเลยค่ะ ซึ่งกลุ่มอาชีพเหล่านี้ได้แก่ แพทย์ ทันตแพทย์ พยาบาล นักบัญชี วิศวกร สถาปนิก และนักสำรวจ  ด้วยเหตุนี้นะคะเพื่อเป็นการเตรียมตัวตอบรับกับการโยกย้ายแรงงานอย่างเสรี เราจึงมีภาษาอังกฤษที่เกี่ยวกับอาชีพทั้ง 7 อาชีพมาบอกเล่าให้ฟังค่ะ โดยขอเริ่มต้นที่ตัวอย่างคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่เกี่ยวกับแพทย์ ทันตแพทย์ และพยาบาล และตัวอย่างประโยคที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวันก่อนคะ เผื่อว่าเราได้มีโอกาสได้ใช้บริการการแพทย์กับแพทย์ชาวต่างชาติจะได้ไม่ขัดเขินค่ะ
คำศัพท์ทั่วไปเกี่ยวกับการแพทย์
ยา (Medicines)
ความหมาย
การรักษา (Treatment)
ความหมาย
eye drops
syringe
bandage
dose
drugs
pain-killer
pill
plaster
tablet
tranquilizer
ยาหยอดตา
หลอดฉีดยา
ผ้าพันแผล
ปริมาณยา
ยา
ยาแก้ปวด
ยาเม็ด
ผ้าปิดแผล
ยาเม็ด
ยาระงับประสาท
check-up
diagnosis
operation / surgery
prescription
ตรวจร่างกาย
วินิจฉัยโรค
ผ่าตัด
การสั่งยารักษา
บุคลากร (staff)
ความหมาย
ophthalmologist
general practitioner
surgeon
obstetrician
physician
จักษุแพทย์
แพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป
ศัลยแพทย์
สูตินรีแพทย์
อายุรแพทย์

การสนทนาทั่ว ๆ ไป
Your test results have come in.
ผลการตรวจออกมาแล้ว
I'm afraid the prognosis isn't good.
หมอเกรงว่าอาการของคนไข้อาจจะไม่ดีนัก
You have a long road to recovery.
คนไข้ต้องใช้เวลานานมากในการฟื้นฟู
We have several options to discuss.
เรามีทางเลือกหลายทางที่ต้องปรึกษาหารือกัน
The blood test came back negative.
ผลการตรวจเลือดออกมาเป็นลบ
The transfusion was a success.
การถ่ายเลือดประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี
It looks like you're ready to go home.
ดูเหมือนว่าคนไข้จะกลับบ้านได้แล้ว
I'd like to keep you here over night.
หมอคงต้องให้คนไข้อยู่โรงพยาบาลสักหนึ่งคืน
We'll know more in a few days.
เราจะได้ข้อมูลมากขึ้นในอีกสองสามวันนี้
You're not in the clear yet.
อาการของคนไข้ยังไม่ชัดเจน
I'm hoping to get to the bottom of this soon.
หมอหวังว่าอีกไม่นานเราคงจะทราบสาเหตุของอาการนี้

ขอบคุณข้อมูลภาษาอังกฤษจาก http://www.englishclub.com/english-for-work/medical-diagnosis.htm

วันพุธที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2558

7 วิธีพัฒนาตัวเองรับประชาคมอาเซียน

7 วิธีพัฒนาตัวเองรับประชาคมอาเซียน


7 วิธีพัฒนาตัวเองรับประชาคมอาเซียน

ในยุคสมัยนี้ โลกก้าวผ่านไปไวมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการทำงาน เทคโนโลยี เศรษฐกิจ หรือเรื่องการศึกษาก็สำคัญ ปัจจุบันการสื่อสารกับต่างประเทศนั้นจำเป็นอย่างมาก เพราะโลกเรามีการติดต่อเชื่อมโยงกันมากขึ้น เราก็ควรจะเรียนรู้ภาษาให้มากขึ้นเช่นกัน อย่างน้อย ภาษาอังกฤษ ก็ควรจะเป็นภาษาพื้นฐานภาษาที่ 2 เพราะไม่ว่าเราจะเรียน ไม่มีงาน หรือทำงาน ถ้าเราได้ภาษาเราจะมีความก้าวหน้ามากขึ้น และยิ่งถ้าเพื่อนๆได้ภาษาอาเซียนด้วยก็จะดีมากๆ ค่อยๆเรียน ค่อยๆฝึกฝน รับรองเราทุกคนสามารถเก่งได้

2. เปิดใจกว้าง
ควรเป็นคนที่เปิดใจกว้าง คือ พร้อมเรียนรู้ที่จะยอมรับความแตกต่างของคนในสังคม และเข้าใจในวัฒนธรรมที่หลากหลายจากประเทศเพื่อนบ้าน แลกเปลี่ยนสิ่งดีๆซึ่งกันและกัน  เช่น ฉันสอนภาษาฉันให้เธอ เธอสอนภาษาเธอให้ฉัน แถมได้เพื่อนๆต่างชาติเพิ่มขึ้นมาอีกด้วย


3. คิดได้วิเคราะห์เป็น
ในโลกของเราทุกวันนี้มีเรื่องลึกลับ ซับซ้อนมากมาย ให้เราได้ค้นคว้าหาความรู้ และนอกจากการใฝ่หาความรู้แล้ว เวลาที่เจออะไรใหม่ หรือเจอปัญหา ก็ต้องมีความคิดเพื่อปรับปรุง ริเริ่ม หรือแก้ไขได้อย่างรอบด้าน วิเคราะห์ถูกผิดได้
4. ปรับตัวได้
มีความรู้แล้ว เปิดใจกว้างแล้ว ยอมรับฟังแล้ว แต่ไม่ปฏิบัติด้วยคงไม่เกิดผลอะไร ดังนั้นต้องรู้จักฟังแล้วคิด คิดแล้วนำไปใช้ด้วยใช้เพื่อปรับตัวให้อยู่รอดในสังคมที่ทุกคนมีความแตกต่าง เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข

5. ฝึกนิสัยให้เหมาะสม
คนไทยเรามีนิสัยสบายๆ ยืดหยุ่นได้เป็นพื้นฐาน แต่เมื่อเราต้องทำงานร่วมกับชาวต่างชาติ คนไทยมักมีปัญหา เช่น เรื่องไม่ตรงต่อเวลา เรื่องไม่แสดงความคิดเห็น ไม่ชอบการทำงานเป็นทีม จึงต้องรู้จักฝึกพฤติกรรมให้เหมาะ และฝึกฝนให้มีนิสัยที่ดี

6. ใช้สื่อให้เป็นประโยชน์
อินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยีใหม่ๆ ไม่ได้มีไว้เล่นเกม หาความบันเทิง ดูหนังดูการ์ตูนย้อนหลัง หรือคัดลอกทำรายงานเท่านั้นนะ เราต้องรู้จักใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ให้เป็นประโยชน์ด้วย ฝึกภาษา หาความรู้ อ่านข่าวประจำวัน รับข่าวสารรอบโลก ซึ่งนอกจากคอมพิวเตอร์แล้ว  สมาร์ทโฟนก็มีบทบาทมากขึ้น สารพัดแอปที่เราโหลดมาไว้ในโทรศัพท์ เราเลือกใช้หาความรู้ได้ อย่างแอป MyMemolody ของ Enconcept แอปความรู้ประชาคมอาเซียนที่โหลดได้ทั้งใน IOS Andriod และ Windows Smart Phone

วิธีหาความรู้รอบตัว อาจจะเริ่มจากสิ่งที่เราชอบ เช่น ชอบกีฬา ก็ได้เริ่มดูว่า นักกีฬาชื่อดังของอาเซียนมีใครบ้าง ชอบการ์ตูนก็ไปดูการ์ตูนเรื่องดัง โดราเอมอนภาษาอาเซียนก็มี หรือชอบเรื่องเศรษฐกิจ ก็ดูว่าตลาดอาเซียนแต่ละประเทศขายอะไร อย่ามองว่าเป็นความรู้ที่ต้องออกสอบในโรงเรียนค่ะ เพราะแบบนั้นมันน่าเบื่อ ให้เรา มองเป็นสิ่งที่เราอยากรู้

7. รู้เชี่ยวชาญ
คนไทยมักมีทักษะจับฉ่าย คือทำเป็นทุกอย่าง แต่ทำได้ไม่ดีที่สุด ในโรงเรียนก็มีทุกวิชาให้เรียน คิดเลขก็ได้ ทำอาหารพอเป็น บังคับรำไทย วิทยาศาสตร์ก็ทดลอง แต่ทั้งหมดนี้บรรจุอยู่ในหลักสูตรบังคับเรียน แต่แทบไม่มีทักษะอะไรเป็นพิเศษในชีวิตประจำวันเป็นพิเศษเลย แต่ในยุคสมัยนี้ ควรที่จะต้องมีพื้นฐานทุกอย่างได้ แต่ต้องเอาดีด้านใดด้านหนึ่งไปเลย เราไม่จำเป็นต้องทำได้ทุกอย่างในยุคนี้ เพราะเรามีเครื่องมือสมัยใหม่ช่วย แต่ความรู้เฉพาะทางจริงๆ กลับยังต้องใช้ความสามารถมนุษย์เท่านั้น เราจึงควรรู้เชี่ยวชาญให้ได้ เพื่อที่คนอื่นๆ จะได้เข้ามาหาผู้เชี่ยวชาญอย่างเรา
เรียบเรียง teen.mthai อ้างอิงkiatkarinedekd